มาแล้วกับคำถามที่หลายๆคนมักพูดถึงกันมาตลอกว่าประกันชั้นสองนั้นเหมาะกับคนประเภทไหนคะ ค่าเบี้ยแพงหรือป่าวแล้วถ้าทำขึ้นมาจริงๆจะดูแลเราดีไหม เพราะประกันชั้น 2 พลัสนี้ให้ความคุ้มครองเพื่อป้องกันอุบัติเหตุรถชนเฉพาะกรณีที่สามารถระบุคู่กรณีได้เท่านั้น !! อย่างไรก็ตามประกันรถยนต์ชั้น 2 พลัสจะเหมาะสมกับคุณหรือไม่มาตามอ่านกันดูค่ะ

1.ผู้ที่ต้องการประหยัดเงิน

หากคุณมีงบประมาณที่จำกัด หรือต้องการจ่ายในราคาพรีเมี่ยมต่ำ และต้องการความคุ้มครองใกล้กับประกันภัยชั้นหนึ่ง เนื่องจากการประกันภัยชั้น 2+ นั้นมีราคาถูกกว่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ประมาณครึ่งหนึ่งและเป็นประกันภัยรถยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องรถยนต์โดยเฉพาะและเรายังสามารถเลือกส่วนลดเช่นความเสียหายแรก (Deductible) หรือหากขับรถได้ดีจะมีส่วนลดประวัติที่ดี (NCB) ในปีหน้า และยังมีส่วนลดสำหรับกล้องติดรถยนต์ที่สามารถลดเบี้ยประกันรถยนต์ราคาถูกลงอีกด้วย

2.คนขับที่มีประสบการณ์สูง

นอกจากความต้องการในการออม ประสบการณ์การขับขี่และความเชี่ยวชาญยังสามารถนำมาใช้ในการประเมินทางเลือกประกันภัยรถยนต์ได้อีกด้วย หากคุณขับรถมานานไม่เคยมีประวัติอุบัติเหตุ หรือต้องระวังอยู่เดิมอยู่แล้ว ประกันชั้น 2+ เป็นสิ่งที่ดีสำหรับคุณ เพราะการประกันภัยชั้นนี้จะดูแลทั้งอุบัติเหตุทางรถยนต์ภัยธรรมชาติรถยนต์, น้ำท่วม, แผ่นดินไหว, รถยนต์ที่หายไปและอื่น ๆ ช่างเทคนิคที่อยู่ใกล้เคียงประกันภัยชั้นหนึ่ง แต่ความคุ้มครองจะต้องเกิดอุบัติเหตุที่สามารถระบุคู่กรณีเท่านั้น หากรถชนเสาไฟฟ้าหรือชนที่กันทางเท้า จะต้องจ่ายค่าซ่อมรถเอง

3ผู้ที่ใช้รถมือสองประกันชั้น 2+ นั้นโอเค

สำหรับรถยนต์ที่มีอายุมากกว่า 4 ปีขึ้นไปประกัน 2+ ชั้นเป็นสิ่งที่เหมาะสำหรับทั้งรถเก๋งและรถกระบะ ถ้าบางคนบอกว่า “ประกันรถยนต์ประเภท 2+ นี้เกิดมาพร้อมกับรถคันมือสองคันนี้” เพราะราคาพรีเมี่ยมดีมาก และความคุ้มครองที่เหมาะสม

4.คนที่ใช้รถยนต์ไม่บ่อย มักจอดอยู่ที่บ้านเป็นส่วนใหญ่

ถึงแม้จะใช้รถน้อยลงจะต้องมีประกันรถยนต์ เพราะชีวิตไม่แน่นอนการ ซื้อประกันภัยรถยนต์ทุกปีเช่นคำว่า “ประหยัดไว้ก่อน !!” แม้ว่าจะไม่ได้ใช้ (สิทธิ์เคลม) แต่มันจะดีกว่าถ้ามีสถานการณ์เลวร้ายที่จะใช้ (สิทธิ์เคลม) แล้วดันไม่มีนะคะ เป็นแบบนี้ระวังจะแย่เอานะ หากคุณไม่พอใจกับข้อมูลประกันภัยรถยนต์คลาส 2+ นั้นเหมาะสมกับเราเองรึป่าว ก็ควรที่จะตรวจสอบให้ละเอียดนะคะ

หากคุณสนใจประกันชั้น 2+ คุณสามารถกรอกข้อมูลพื้นฐานเช่นรายละเอียดยานพาหนะ (ยี่ห้อรุ่นรถยนต์ปีที่ลงทะเบียน) และรายละเอียดผู้ขับขี่ (ชื่อคนขับหมายเลขโทรศัพท์) เพียงเท่านี้คุณก็จะได้รู้ว่าเบี้ยประกันที่เหมาะกับคุณ