7 สิ่งที่มีผลต่อค่าเบี้ยประกันภัยเพิ่มตามความเสี่ยงภัย1 min read
อัตราเบี้ยประกันภัยเพิ่มตามความเสี่ยงภัย หมายถึง อัตราเบี้ยประกันภัยที่เป็นตัวแปรในการคำนวณเบี้ยประกันภัย โดยคิดจากความเสี่ยงภัยแต่ละชนิดเพื่อให้เบี้ยประกันภัยที่เรียกเก็บจากรถยนต์แต่ละประเภทเหมาะสมกับความเสี่ยงภัยของรถยนต์ประเภทนั้น ๆ อัตราเบี้ยประกันภัยทั้ง 8 ประเภท จำแนกได้ 7 ชนิด ดังนี้
1.ลักษณะการใช้รถยนต์
คือรูปแบบของการใช้งานรถยนต์ เช่นการใช้ส่วนบุคคล, การใช้เพื่อการพาณิชย์, การใช้รับจ้างสาธารณะ, รถยนต์ป้ายแดง, รถพยาบาล, รถใช้ในการเกษตร เป็นต้น
2.ขนาดรถยนต์
ขนาดรถยนต์แยกตามลักษณะการใช้รถยนต์ โดยแยกออกเป็นขนาดเครื่องยนต์ใช้สำหรับรถยนต์นั่ง รถยนต์นั่งรับจ้างสาธารณะ รถจักรยานยนต์ รถพยาบาล จำนวนที่นั่งใช้สำหรับรถยนต์โดยสาร, น้ำหนักบรรทุกใช้สำหรับรถยนต์บรรทุก น้ำหนักบรรทุกให้หมายความถึงน้ำหนักรถ และน้ำหนักบรรทุกรวมกัน
3.อายุผู้ขับขี่
อายุผู้ขับขี่ที่กำหนดไว้ 4 ช่วงอายุ ได้แก่ 18-24 ปี, 25-35 ปี, 36-50 ปี และอายุเกิน 50 ปีขึ้นไป ผู้เอาประกันภัยสามารถระบุชื่อผู้ขับขี่ได้ไม่เกิน 2 คน อัตราที่กำหนดให้ใช้อายุผู้ขับขี่ที่มีความเสี่ยงภัยมากกว่าเป็นเกณฑ์ในการคำนวณอัตราเบี้ยประกันภัย ส่วนการนับอายุให้นับปีที่เกิด ถึงปีที่ยื่นคำขอเอาประกันภัย อายุผู้ขับขี่ใช้เฉพาะรถส่วนบุคคลเท่านั้น
4.กลุ่มรถยนต์
กลุ่มรถยนต์แบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม โดยอาศัยราคาอะไหล่ และค่าซ่อมเป็นตัวกำหนด การแบ่งกลุ่มรถยนต์ดังกล่าว โดยจำแนกรายละเอียดตาม ยี่ห่อ รุ่น รายละเอียดระบุไว้ในกลุ่มรถยนต์
- กรณีรถยนต์รุ่นที่มิได้ระบุไว้ในกลุ่มรถยนต์ให้ใช้อัตราเบี้ยประกันภัยเพิ่มตาม
- ความเสี่ยงภัยตามกลุ่มของยี่ห้อ ซึ่งจำแนกตามการผลิตภายในประเทศและรถที่นำเข้าจากต่างประเทศ
- กรณีรถยนต์ยี่ห้อที่มิได้ระบุไว้ให้ใช้อัตราเบี้ยประกันภัยเพิ่มตามความเสี่ยงภัยตามกลุ่มรถยนต์ที่ใกล้เคียง
- กลุ่มรถยนต์ใช้สำหรับเฉพาะรถยนต์นั่งเท่านั้น
5.อายุรถยนต์
อายุรถยนต์เป็นตัวแปรความเสี่ยงภัยที่ใช้คำนวณเบี้ยประกันภัย โดยพิจารณาจากอายุการใช้งาน ซึ่งจะมีผลทำให้ความเสี่ยงภัยเพิ่มขึ้นหรือลดลง ส่วนการนับอายุรถยนต์ให้นับปีที่จดทะเบียนรถยนต์ถึงปีที่ยื่นคำขอเอาประกันภัยรถยนต์
6.จำนวนเงินเอาประกันภัย
คือ จำนวนเงินเอาประกันภัยของตัวรถคันที่เอาประกันภัย อัตราเบี้ยประกันภัยให้ใช้อัตราเบี้ยประกันภัยแยกตามประเภทรถยนต์
- จำนวนเงินเอาประกันภัยที่มิได้ระบุไว้ในอัตราเบี้ยประกันภัยให้ใช้อัตราของจำนวนเงินเอาประกันภัยที่สูงกว่า
- จำนวนเงินเอาประกันภัยรวมถึง อุปกรณ์ ส่วนควบ เครื่องตกแต่งรถ และอุปกรณ์เพิ่มพิเศษ เช่น อุปกรณ์ดัมพ์เป็นต้น
7.อุปกรณ์เพิ่มพิเศษ
หมายถึง อุปกรณ์เพิ่มเติมสำหรับรถยนต์บางประเภท ซึ่งทำให้ความเสี่ยงภัยในการใช้รถเพิ่มขึ้น และมีผลทำให้ค่าสินไหมทดแทนเพิ่มขึ้นด้วย เช่น อุปกรณ์ดัมพ์ หรือเครื่องไฮดรอลิค หรือรถยนต์บรรทุกที่มีเครื่องทำความเย็น และอุปกรณ์เพิ่มพิเศษใช้สำหรับรถเพื่อการพาณิชย์