เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ไม่ว่าแบบตั้งใจหรือแบบไม่ตั้งใจ ความเสียหายก็กเดขึ้นทั้งกับผู้ได้รับบาดเจ็บ คนที่นั่งโดยสารมาด้วย รวมไปถึงตัวรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายเป็นอันดับแรกเช่นกัน รถยนต์ทุกคันส่วนใหญ่จะทำประกันรถยนต์ไว้อยู่แล้ว เมื่อเกิดอุบัติเหตุสามารถโทรเรียกเจ้าหน้าประกันเพื่อมาทำ เคลมประกันภัย รถยนต์ได้ทันที ตามเงื่อนไขและกรมธรรม์ที่ได้ทำไว้กับบริษัทประกันนั้น

1. ขั้นตอนเพื่อทำการเคลมประกันรถยนต์

• การเตรียมเอกสารเคลมประกัน
• บัตรประจำตัวประชาชน
• ใบขับขี่ หรือ สำเนาใบขับขี่
• เล่มทะเบียนรถ หรือ สำเนาเล่มทะเบียนรถ
• สำเนากรมธรรม์ประกันภัย
• ใบรับรองความเสียหาย หรือ ใบเคลมที่ทางบริษัทประกันภัยออกให้

2. นำรถที่เกิดอุบัติเหตุเข้าศูนย์ซ่อม

เมื่อเอกสารต่างๆ ถูกเตรียมไว้หมดแล้ว ถึงขั้นตอนนำรถไปยังศูนย์ซ่อม ก่อนหน้านั้นอย่าลืมเก็บของมีค่า ของใช้ส่วนตัวออกจากรถให้หมด ทำรถให้โล่งมากที่สุด เพื่อเป็นการป้องกันของสูญหายหรือชำรุด

3. เก็บใบรับรถให้ดีและปลอดภัย

หลังจากรถถูกนำมายังศูนย์บริการเพื่อเคลมประกันภัยเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่จะให้ใบรับรถ ซี่งแสดงถึงหลักฐานต่างๆ ในการทำเคลมประกันภัย รักษาใบรับรถให้ดี เพราะเจ้ารถสามารถมาเช็คข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ได้ เช่น รายการที่ต้องซ่อม รายการที่ต้องเปลี่ยน รอยตำหนิรถ เลขไมล์ จำนวนวันระยะเวลาที่ต้องซ่อม เมื่อรถซ่อมเสร็จต้องนำใบรับรถมาในวันนั้นเพื่อยืนยันว่า รถคันนี้เป็นของคูรและรายละเอียดการซ่อมตรงกับใบรับรถ

4. ใบเสร็จสำคัญ อย่าลืมเก็บ

ทุกครั้งที่ทำการชำระเงินควรเก็บใบใบเสร็จให้ดี เพราะเกิดเกตุใยสถานการฉุกเฉิน หรือพบเจอปัญหาต่างๆ ก็สามารถนำใบเสร็จการซ่อมนี้ไปยืนยันกับทางศูนย์นั้นได้ ในใบเสร็จต้องระบุรายละเอียดไว้อย่างชัดเจน

5. ตรวจเช็คสภาพรถก่อนออกจากอู่ซ่อมหรือศูนย์ซ่อม

ขั้นตอนสุดท้าย คือการที่คุณต้องไปรับรถของคุณเอง โดยก่อนที่จะนำรถออกจากอู่ซ่อมหรือศูนย์ซ่อมควรตรวจเช็คให้เรียบร้อย รายละเอียดการซ่อม เช็ครอบคันตำหนิหริมีริ้วรอยตรงไหนอีกหรือไม่ พร้อมกับตรวจเช็คภายในรถว่าสภาพยังเหมือนเดิมหรือมีอะไรที่ยังไม่ได้ทำการแก้ไขหรือเปล่า เลขไมล์เพิ่มากน้อยแค่ไหน ถ้าทุอย่างสมบูรณ์เรียบร้อยคุณสามารถนำรถกลับได้ทันที

ทำตามขั้นตอนดังกล่าว การเคลมประกันภัย ก็ไม่ยากอย่างที่คุณคิดเอาไว้ อันดับแรกเมื่อคุณเกิดอุบัติเหตุควรตั้งสติให้ดี ทำจิตใจค่อยๆผ่อนคลาย ลำดับเหตุกการณ์ให้ดี ว่าสิ่งที่ควรทำเป็นอันดับเป็นอะไร แต่อย่างไรก็ดีการขับรถยนต์ไม่ควรประมาทอยู่แล้ว ใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนดก็จะปลอดภัยกับทุกฝ่ายและทรัพย์สินไม่เสียหายต้องมีสติตลอดเวลาในการขับรถยนต์

เรียบเรียงโดย : 168carinsurance.com

ขอบคุณข้อมูล : www.masii.co.th