เช็ครถก่อนเดินทางไกล 4 จุดง่ายๆที่ไม่ควรพลาด1 min read
ช่วงเทศกาลหรือว่าวันหยุดยาวนั้นคงจะไม่พลาดเรื่องของการเดินทางไกลแน่นอน
ในเมื่อเตรียมแบกเป้เที่ยวเหนือลงใต้ทั้งที่ ก็ต้องตรวจเจ้ารถยนต์แสนรักก่อนเดินทางกันซะหน่อยว่าพร้อมกันหรือไม่ เพื่อเตรียมความปลอดภัยในช่วงระหว่างการเดินทาง คงไม่มีใครอยากเสียเวลาอันแสนสุขในช่วงกำลังเดินทางหรือว่าทริปต้องล่มเพราะเจ้ารถยนต์แสนรักมีปัญหาแน่นอน เพราะฉะนั่นเรามาดูกันดีกว่าว่ามี 4 จุดตรงไหนที่ต้องเตรียมตรวจเช็คอย่างระเอียดบ้างตามมาดูกันเลยค่ะ
1.ตรวจสอบระบบเบรก
พยายามที่จะฟังเสียงเบรกอยู่เป็นประจำตั้งแต่แรกว่ามีเสียงดัง เอี๊ยดอ๊าดผิดปกติหรือเปล่า หรือลองสังเกตุว่าทุกครั้งที่มีการเหยียบเบรกรถยนต์นั้นหยุดสนิดหรือไม่ เพื่อที่เวลาครบกำหนดการตรวจเช็ครถจะสามารถบอกอาการผิดปกติต่อช่างตรวจเช็คได้ถูกต้อง เพราะเรื่องของเบรกนั้นซับซ้อนมากเกินกว่าที่คุณจะสามารถตัวเช็คได้อย่างทั่วถึง ทางที่ดีหากว่ามีอาการผิดปกติควรนำรถไปตรวจเช็คระบบเบรคที่ศูนย์บริการจะดีที่สุด
2.ตรวจเช็คแบตเตอรี่
ในกรณีที่เป็นแบตเตอร์รี่ที่ต้องเติมน้ำกลั่นอย่าลืมเลยว่าก่อนที่จะออกเดินทางไกลนั้นควรที่จะตรวจระดับน้ำทุกครั้ง แถมต้องดูด้วยว่าขั่วของแบตเตอรี่นั้นมีสนิมเกาะอยู่หรือไม่ ปลายสายแน่นดีอยู่หรือเปล่า ส่วนอายุการใช้งานของแบตเตอรี่อยู่ที่ประมาณ 2 ปี หากว่ามีการใช้มานานกว่านี้ก็ควรที่จะเปลี่ยนก่อนที่จะเดินทาง เพื่อไม่เสี่ยงต่อการสตาร์รถไม่ติดระหว่างทางเพราะแบตเตอรี่ไม่เก็บไฟนะคะ
3.ตรวจเช็คหม้อน้ำและน้ำยาหล่อเย็น
แน่นอนว่าหม้อน้ำเป็นระบบคลายความร้อนของเครื่องยนต์ การที่เครื่องยนต์นั้นมัอุณๆหภูมิสูงมากเกินไปอาจก่อให้เกิดความเสียหายของชิ้นส่วนในเครื่องยนต์ได้ เพราะฉะนั้นควร ดูระดับน้ำในหม้อน้ำสำรอง ให้อยู่ในระหว่าง Max กับ Min ก็เพียงพอแล้ว สิ่งที่ห้ามทำในการตรวจสอบหม้อน้ำ อย่าเปิดฝาหม้อน้ำในขณะที่เครื่องยนต์กำลังร้อน เพราะน้ำร้อนในเครื่องยนต์อาจพุ่งขึ้นมาจนทำให้เกิดอันตรายได้ เหมือนกับการตรวจเช็คน้ำยาหล่อเย็น ที่ช่วยให้ระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
4.ตรวจสอบน้ำมันเครื่อง
น้ำมันเครื่องนั้นก็สำคัญ เพราะแบบนี้แล้วก่อนที่จะเริ่มออกเดินทางไกล ก็ควรที่จะตรวจสอบทุกครั้งแถมการตรวจสอบนั้นก็แสนจะง่ายสามารถทำได้เอง โดยเริ่มจากการจอดรถในแนวราบ สตาร์ทรถทิ้งไว้ เพื่อทำการวอร์มเครื่องให้มีความร้อนเท่ากับตอนวิ่งปกติ เมื่อมาตรวัดความร้อนขึ้นแล้ว ให้เราทำการดับเครื่อง รอประมาณ 2-3 นาที จากนั้นดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องขึ้นมา แล้วใช้กระดาษชำระเช็ดน้ำมันเครื่องที่ส่วนปลายก้านออก
เสียบก้านวัดน้ำมันเครื่องกลับลงไปตรงๆ จนสุด แล้วดึงขึ้นมาเพื่ออ่านค่าระดับน้ำมันที่วัดได้ หากอยู่ในระดับ Mid ก็เติมน้ำมันเครื่องให้อยู่ระหว่าง Max กับ Mid ส่วนการเช็คสภาพน้ำมันเครื่องนั้น ให้สังเกตว่าน้ำมันเครื่องเปลี่ยนสีเป็นสีดำหรือยัง ถ้าใช่ แสดงว่าถึงเวลาเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแล้ว และควรดำเนินการทันที เพื่อให้รถยนต์ของคุณอยู่ในสภาพพร้อมสำหรับการเดินทางไกลอย่างปลอดภัย