เมาแล้วขับรถชนประกันจ่ายไม

ถ้าติดตามข่าวเกี่ยวกับเรื่องประกันสักหน่อยคุณก็จะรู้ได้เลยละค่ะ ว่ามีกฏหมายบังคับออกมาจากทางประกันทั้งหลายแล้วว่า “เมาแล้วขับไม่จ่าย แน่นอน” หากคุณขับรถยนต์ชนต้นไม้หรืออะไรก็ตาม ประกันไม่รับเครมแน่นอน หากมีการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในร่างกายนั้นต้องเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จากเดิม 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ประกันจะไม่รับผิดชอบอะไรทั้งสิ้น แต่ถ้าต่ำกว่านั้นประกันจะทำหน้าที่คุ้มครองตามปกติค่ะ  เริ่ม 1 มิ.ย.นี้

เป็นเรื่องที่เราทุกคนทราบกันดีว่าปัญหา สำคัญของการเกิดอุบัติเหตุขึ้นบนท้องถนนมาจาก “การเมาแล้วขับ” ดังนั้นหนึ่งในกลไกสำคัญที่ช่วยแก้ปัญหานี้คือการใช้มาตรการอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยลดอุบัติเหตุ ได้มีการออกมาตรการเพื่อช่วยลดอุบัติเหตุเช่นกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็เพื่อปรับปรุงข้อยกเว้นในส่วนของปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดจากเดิมตามคำสั่งของนายทะเบียนหมายเลข 22/2551 ได้ระบุการยกเว้นความคุ้มครองสำหรับการประกันภัยรถยนต์เป็น การขับรถ โดยกรณีบุคคลที่ขับรถมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดไม่น้อยกว่า150 มิลลิกรัมจะไม่ได้รับการคุ้มครองเปอร์เซ็นต์ นั้นกลายเป็นกฏหมายเก่าไปแล้ว และตอนนี้ได้มีการเปลี่ยนเป็น กรณีมีแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า 50 มิลลิกรัมจะไม่ได้รับการคุ้มครอง ” ซึ่งลดลงไป 100 มิลลิกรัม

จากการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดข้างต้นเพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งของนายทะเบียนหมายเลข 11/2560 สิ่งนี้จะส่งผลให้ผู้ขับขี่รถยนต์ที่ทำประกันแบบสมัครใจ ที่มีแอลกอฮอล์มากกว่า 50 มิลลิกรัมในเส้นเลือดมากกว่า 50 มิลลิกรัม จะไม่อยู่ในนโยบายประกันรถยนต์ ทั้งในเรื่องของการความรับผิดของบุคคลที่สาม บริษัท ประกันภัยจะยังคงต้องจ่ายค่าชดเชยให้กับบุคคลที่สามที่ได้รับความเสียหายก่อน เมื่อ บริษัท ประกันภัยได้ชำระค่าชดเชยเรียบร้อยแล้ว บริษัท มีสิทธิที่จะขอความช่วยเหลือเพื่อเรียกร้องค่าชดเชยที่ บริษัท ได้จ่ายให้กับคนขับที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า 50 มิลลิกรัมในภายหลัง

การเปลี่ยนแปลงในเรื่องของปริมาณแอลกอฮอล์นั้น ไม่มีผลกระทบต่อความคุ้มครองของการประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ)  สามารถใช่ได้ปกติหายผู้ใช่รถยนต์นั้นได้รับบาดเข็บจากอุบัติเหตุบนท้องถนน