เมื่อประกันรถยนต์ครบกำหนดสิ้นสุดการประกัน เจ้าของรถก็มักจะหาบริษัทประกันใหม่ เพราะหากไม่เปลี่ยนบริษัท

ค่าเบี้ยประกันก็จะเพิ่มขึ้นทุกปี แต่หากบริษัทเดิมมีเงื่อนไขดีๆหรือโปรโมชั่นพิเศษ เจ้าของรถก็อยากจะใช้บริการบริษัทเดิมต่อ ทีนี้หลายคนอาจเริ่มลังเลว่าจะต่อประกันกับบริษัทเดิมหรือเลือกบริษัทใหม่ดี วันนี้เราก็มีเหตุลผลที่คุณควรจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนบริษัทประกันใหม่มาฝากกัน

เหตุผลที่ควรเปลี่ยนบริษัทประกันรถยนต์ใหม่

1.เคลมบ่อย

หากรู้ตัวว่าปีนี้เคลมไปหลายครั้ง และอยากจ่ายเบี้ยในราคาที่ถูกลง ก็ต้องหาบริษัทประกันรถยนต์ใหม่ เพราะไม่อย่างนั้นค่าเบี้ยประกันจะมีราคาที่แพงมาก การต่อประกันรถยนต์กับบริษัทใหม่จะมีราคาที่ถูกกว่า เนื่องจากเขาไม่มีประวัติการขับขี่ของคุณ ฉะนั้นก็จะได้ราคาที่ถูกลงและความคุ้มครองเท่าเดิม

2.ไม่เคยเคลมแต่เก็บเบี้ยเพิ่ม

สำหรับคนที่ไม่เคยเคลมเลย ประวัติดีมาตลอด แต่พอถึงคราวเบี้ยปีต่อไปกลับมีราคาค่าเบี้ยที่แพงขึ้น จึงไม่แปลกที่จะหันหน้าไปหาบริษัทประกันเจ้าอื่น

3.ต้องการลองบริษัทใหม่

บางคนก็อาจจะทำกับบริษัทเดิมมานานหลายปีแล้ว และมีความคิดที่อยากจะลองเปลี่ยนบริษัทใหม่ดูบ้าง เผื่อจะได้รับการบริการที่ดีกว่าเดิม

4.ได้รับส่วนลดที่มากกว่า

แรงจูงใจที่ทำให้เปลี่ยนไปใช้ประกันกับบริษัทอื่นคือ บริษัทอื่นให้ส่วนลดที่มากกว่าบริษัทเดิมทั้งที่ความคุ้มครองเท่ากัน เพราะทุกคนก็ต้องการประหยัดค่าเบี้ยประกันด้วยกันทั้งนั้น

5.ได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดี

ลูกค้าบางคนอาจเคยได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดีกับบริษัทเดิม จึงเป็นเหตุให้อยากทำประกันกับบริษัทใหม่

เหตุผลที่ไม่ควรเปลี่ยนบริษัทประกันรถยนต์ใหม่

1.มีส่วนลดเบี้ยประกันปีต่อไป

หากบริษัทเดิมมีนโยบายลดค่าเบี้ยประกันปีต่อไปให้ และความคุ้มครองเหมือนเดิม ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องเปลี่ยนบริษัทประกันใหม่

2.ได้รับความสะดวกสบายจากเจ้าหน้าที่

หากทุกครั้งที่รถมีการเคลมเกิดขึ้น แล้วคุณสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ง่าย พร้อมกับเจ้าหน้าที่ให้การอำนวยความสะดวกอยู่ในระดับที่คุณพอใจ เคลมเร็ว บริการดีเสมอต้นเสมอปลาย ก็ตัดสินใจต่อประกันกับบริษัทเดิมได้เลย

3.เคลมง่าย

เมื่อมีการเคลมเกิดขึ้น แล้วบริษัทประกันไม่ชักช้า ทำเรื่องให้ทันทีเมื่อเอกสารครบ ก็ต่อประกันที่บริษัทเดิมได้เลย

4.มีรถให้ใช้ระหว่างซ่อม

บางคนก็ต้องใช้รถในการเดินทางทุกวัน ฉะนั้นให้ดูเงื่อนไขด้วยว่าบริษัทที่เราทำประกันด้วยนั้นมีรถยนต์ให้ใช้ระหว่างซ่อมหรือไม่ หากบริษัทประกันเดิมมี คุณก็ไม่ต้องไปเปลี่ยนบริษัทประกันใหม่หรอก

5.ไม่มีเวลาศึกษาเงื่อนไขเพิ่มเติม

กรณีที่คุณทำงานยุ่งมาก ไม่มีเวลามาศึกษาเงื่อนไขข้อมูลเพิ่มเติมต่างๆเองและไม่มีเวลาเปรียบเทียบส่วนลดหรือความคุ้มครอง แนะนำว่าให้ต่อประกันกับบริษัทเดิมจะดีกว่า เพราะยังไงคุณก็รู้อยู่แล้วว่าประกันเดิมที่ใช้อยู่ดีหรือไม่อย่างไร

6.มีของแถมที่น่าสนใจ

ดูว่าบริษัทเดิมมีของแถมที่น่าสนใจบ้างหรือเปล่า เช่น ส่วนลดเติมน้ำมัน, ร่ม, ม่านบังแดด เป็นต้น เพราะหากบริษัทมีของแถมดึงดูดลูกค้า ก็ทำให้ลูกค้าเดิมไม่เปลี่ยนใจไปทำประกันกับบริษัทอื่นแน่นอน