ต่อประกันรถยนต์ปีต่อไป แบบไหนคุ้มกว่า

ต่อประกันรถยนต์ปีต่อไป แบบไหนคุ้มกว่า บริษัทเดิมหรือเจ้าใหม่1 min read

ทุกปีพอใกล้ครบกำหนดต่อประกัน หลายคนก็เจอปัญหาเดิม ๆ บริษัทเดิมโทรมาต่ออายุ ขณะที่บริษัทใหม่ก็ส่งโปรโมชั่นราคาถูกกว่าให้เห็นเต็มฟีด คำถามคือ “ต่อประกันรถยนต์ปีต่อไป ควรอยู่กับบริษัทเดิมหรือเปลี่ยนเจ้าใหม่ดี?” บทความนี้จะพามาเปรียบเทียบให้เห็นชัด ว่าทางไหนคุ้มกว่าในแง่ของ “ราคา” และ “ความคุ้มครอง”

อยู่กับบริษัทเดิมดีไหม? มาดูข้อดี–ข้อเสียกันก่อน

ข้อดีของการต่อกับบริษัทเดิม

  1. มีประวัติการเคลมอยู่แล้ว ถ้าปีที่แล้วขับดี ไม่เคลมบ่อย บริษัทเดิมมักให้ส่วนลดประวัติดี (No Claim Bonus) ทำให้เบี้ยปีต่อไปถูกลง
  2. ระบบข้อมูลครบ เคลมสะดวก บริษัทเดิมมีประวัติรถและข้อมูลผู้ขับขี่ครบ ถ้าเกิดเคลมใหม่มักดำเนินการง่ายกว่า
  3. ไม่ต้องเสียเวลาเปรียบเทียบใหม่ ประหยัดเวลา เพราะไม่ต้องกรอกข้อมูลซ้ำหลายเจ้า

ข้อเสียของการอยู่กับบริษัทเดิม

  •  ราคาบางครั้ง “สูงกว่าเจ้าใหม่” เพราะโปรโมชั่นปีแรกหมดแล้ว
  •  บางบริษัทไม่แจ้งเงื่อนไขปรับเบี้ยล่วงหน้า ทำให้เราจ่ายแพงกว่าโดยไม่รู้ตัว
  •  ถ้าเคลมช้าหรือบริการไม่ดีในปีที่ผ่านมา ก็ควรพิจารณาเปลี่ยน

ถ้าบริษัทเดิมบริการดี เคลมไว และเบี้ยไม่ต่างมาก ควรอยู่ต่อได้ แต่ถ้ารู้สึกว่า “จ่ายเท่าเดิมแต่ได้บริการแย่ลง” ถึงเวลามองหาทางเลือกใหม่

เปลี่ยนบริษัทใหม่ดีไหม? มาดูข้อดี–ข้อเสียกันบ้าง

ข้อดีของการเปลี่ยนเจ้าใหม่

  1. ได้โปรโมชั่นราคาพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ หลายบริษัทแข่งกันลดเบี้ยปีแรก 10–30% เพื่อดึงลูกค้าใหม่ ทำให้ราคาถูกกว่าเดิม
  2. ปรับแผนคุ้มครองให้เหมาะกับรถมากขึ้น รถเก่าอาจไม่จำเป็นต้องทำชั้น 1 แล้ว การเปลี่ยนบริษัทใหม่ช่วยให้เลือกแผนที่ “พอดีกับอายุรถ” ได้
  3. โอกาสได้บริการดีกว่าเดิม บริษัทใหม่บางแห่งมีระบบเคลมออนไลน์รวดเร็วกว่า หรือมีศูนย์บริการในพื้นที่มากกว่า

ต่อประกันรถยนต์ปีต่อไป แบบไหนคุ้มกว่า

ข้อเสียของการเปลี่ยนเจ้าใหม่

  •  ต้องตรวจสอบเงื่อนไขใหม่ทั้งหมด เช่น ค่าความเสียหายส่วนแรก (Deductible) หรืออู่ซ่อม
  •  ถ้าเคยมีเคลมบ่อยในปีที่ผ่านมา บางบริษัทอาจคิดเบี้ยแพงขึ้น
  •  ต้องส่งเอกสารและตรวจสภาพรถใหม่ในบางกรณี

ถ้าเจอบริษัทใหม่ที่มีความคุ้มครองเท่ากันแต่ราคาถูกกว่า และรีวิวบริการดี ควรย้ายได้เลย

วิธีเปรียบเทียบประกันให้คุ้มก่อนต่อ

  1. ดูเบี้ยประกันเทียบกัน 3–5 เจ้า อย่าดูแค่ราคาต่อปี ให้ดูด้วยว่าครอบคลุม “ซ่อมอู่ / ซ่อมห้าง” และ “ความเสียหายต่อบุคคลภายนอก” หรือไม่
  2. อ่านเงื่อนไขความคุ้มครองให้ครบ เช่น บางเจ้าเบี้ยถูก แต่ตัดค่ารักษาพยาบาลคนขับออก หรือจำกัดจำนวนอู่ซ่อม
  3. ดูรีวิวบริการหลังการขาย บางบริษัทเคลมไว บางที่ต้องรอนาน ลองอ่านรีวิวจริงใน Pantip หรือกลุ่มรถยนต์ใน Facebook
  4. สอบถามส่วนลดประวัติดีจากบริษัทเดิมก่อนตัดสินใจ บางครั้งแค่โทรไปต่อรอง ก็ได้เบี้ยเทียบเท่าบริษัทใหม่โดยไม่ต้องย้าย

 เคล็ดลับต่อประกันรถยนต์ให้คุ้มสุด

  •  อย่ารอจนวันหมดประกัน เพราะบางบริษัทให้ส่วนลดพิเศษถ้าต่อก่อนครบกำหนด
  •  ตรวจสอบโปรโมชั่นบัตรเครดิต หลายธนาคารมีโปรผ่อน 0% หรือรับเงินคืน
  •  เก็บหลักฐานการเคลมทุกครั้ง เพราะประวัติดีคือส่วนลดปีถัดไป
  •  ถ้าใช้รถน้อย พิจารณา “ประกันขับน้อย จ่ายน้อย” ประหยัดได้อีกหลายพันบาทต่อปี

ต่อกับใครก็ได้ แต่ต้องคุ้มและมั่นใจ ไม่มีคำตอบตายตัวว่า “ต่อประกันรถยนต์ปีต่อไปกับบริษัทเดิมหรือเจ้าใหม่แบบไหนคุ้มกว่า” สิ่งสำคัญคือ ดูที่บริการ ความคุ้มครอง และความน่าเชื่อถือของบริษัทเป็นหลัก ราคาถูกไม่ได้แปลว่าดีเสมอไป และเบี้ยแพงก็ไม่ได้หมายถึงบริการเหนือกว่า ถ้าอยากคุ้มจริง ให้เปรียบเทียบหลายเจ้า แล้วเลือกบริษัทที่ให้คุณ “อุ่นใจมากกว่าประหยัด” เพราะสุดท้ายแล้ว ประกันรถยนต์ไม่ได้แค่เรื่องราคา แต่คือ “ความสบายใจทุกครั้งที่ขับรถ”